7 ข้อที่เราจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม เมื่อพาพ่อ-แม่ ออกเดินทางครั้งต่อไป


7 ข้อที่เราจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม 

เมื่อพาพ่อ-แม่ ออกเดินทางครั้งต่อไป



ไม่ว่าจะเที่ยวกับพ่อ-แม่ บ่อยสักเท่าไหร่ แต่พอกลับมาจากทริปทีไร ก็เหมือนมีบทเรียนใหม่ๆมาให้เรียนรู้ และนำไปปรับปรุงอยู่เสมอ และนี่คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้และอยากจะทำให้ดีขึ้น ในการพาพ่อ-แม่เที่ยวครั้งต่อไปค่ะ


1️⃣.บินไฟลท์ดึกถึงเช้า ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุเท่าใดนัก

สำหรับวัยหนุ่มสาว การบินไฟลท์ดึกอาจจะดี เพราะประหยัดเวลา บินดึกถึงเช้าเที่ยวต่อได้เลย ไม่เสียเวลาเดินทางทั้งไปและกลับ

แต่สำหรับผู้สูงอายุแล้วการนอนบนเครื่องบินไม่ใช่เรื่องที่โอเคเลย แม้เบาะจะเอนได้ มีหมอน ผ้าห่ม แต่การนอนกึ่งนั่ง มันไม่ได้อยู่ในสรีระที่ถูกต้องที่จะหลับหรืองีบเป็นพักๆ

ขนาดตัวเราเอง เรายังตอบไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนเรานอนหลับหรือไม่ เพราะมันจะกึ่งหลับ กึ่งตื่น อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการนอนไม่เพียงพอแล้วเที่ยวต่อทันทีที่ไปถึง อาจจะทำให้พ่อแม่เหนื่อยและล้าตั้งแต่วันแรกของการเดินทาง

ดังนั้น หากเลือกได้ในประเทศที่เดินทางไม่ไกลมาก เราควรเดินเลือกทางตอนกลางวัน ไปถึงตอนเย็นหรือค่ำ และให้ท่านนอนพักผ่อนสัก 1 คืน ก่อนออกเที่ยวในวันรุ่งขึ้นน่าจะเหมาะกว่าค่ะ

2️⃣.กินอาหารไม่ตรงเวลาเสี่ยงต่อการปวดท้อง

สืบเนื่องจากข้อที่ 1 การบินไฟท์ดึก และข้ามไปยังโซนเวลาของประเทศอื่น ทำให้ระบบในร่างกายต้องปรับตัว อย่างแรกที่ต้องเจอคือเรื่องของการกินอาหาร บ่อยครั้งที่เราจะต้องรับประทานอาหารในเวลาเที่ยงคืนหรือตี 1 หรือไม่ก็กินมื้อเช้าตอนตี 3 หรือตี 4

การกินอาหารผิดเวลาแบบนี้ เสี่ยงต่อการปวดท้อง เนื่องจากรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา แม้จะเป็นเพียงมื้อหรือ 2 มื้อ แต่ก็อาจทำให้เกิดกรดและลมในกระเพาะอาหาร เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้

ดังนั้นหากหลีกเลี่ยงการกินอาหารไม่ถูกเวลาไม่ได้ จึงควรพกยาลดกรดหรือยาแก้ปวดท้อง ติดตัวไปด้วยเสมอค่ะ

3️⃣.อาหารฟาสต์ฟู้ดไม่ควรให้ท่านกินเกิน 2 มื้อ

ในบางประเทศการจะหาอาหารร้านดีๆสักร้านนึงก็อาจจะเป็นเรื่องยากและสิ่งที่ง่ายที่สุดก็หนีไม่พ้นอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ง่ายและหาได้ทั่วไป

หากเป็นเพียงมื้อหรือ 2 มื้อ พ่อกับแม่ก็คงกินแก้หิวได้ไม่ขัดข้อง แต่เกินกว่านั้นท่านจะเริ่มเบื่อและไม่อร่อยกับการรับประทานอาหารแล้ว ดังนั้นเราจึงควรเตรียมตัวเลือกที่หลาย เปลี่ยนให้ท่านกินอะไรใหม่ๆบ้าง

4️⃣.เวลามีเรื่องให้กังวล ให้ทำนิ่งๆไว้ ถ้าไม่จำเป็นก็ยังไม่ต้องบอก / สั่งอาหารอย่าพยายามบอกราคา

ในบางเรื่อง ไม่รู้ก็จะสบายใจว่า ยกตัวอย่างเช่น เราไม่แน่ใจว่ารถไฟที่เราจะขึ้นคือสายไหน เป็นขบวนนี้นะ หรือขบวนถัดไปหรือเปล่า ถ้าเราคอยผุดลุกผุดนั่งไปดู พ่อกับแม่เห็นก็อาจจะไม่สบายใจกับเราตามไปด้วย ท่านอาจจะมาถามว่า ไม่แน่ใจหรือ ถ้าไม่แน่ใจก็ควรไปถาม เจ้าหน้าที่นะ อะไรทำนองนี้

เชื่อว่าผู้นำทางทุกคนหาข้อมูลมาดีแล้ว แต่อาจจะเกิดความไม่แน่ใจเมื่อถือหน้างาน ดังนั้นก็ทำตัวให้นิ่งๆไว้ ไม่แน่ใจก็เข้าไปถาม หรือถ้าผิดไปแล้วจริงๆ ก็ค่อยหาทางแก้ไข ไปลงป้ายหน้าก็ได้ พลาดไปแล้วก็รอคันถัดไปได้ พยายามทำทุกเรื่องให้เป็นเรื่องปกติ ให้ท่านรู้สึกสบายๆ ไม่ต้องกังวล ดีที่สุดค่ะ ผู้สูงอายุ บางครั้งก็เครียดง่าย ความดันสูงค่ะ

อีกอย่างการไปเที่ยวต่างประเทศ ค่าเงินก็จะไม่เหมือนบ้านเรา ทุกครั้งที่กินข้าวหรือสั่งอาหารอะไร พ่อแม่ก็จะคอยถามเสมอว่ามื้อนี้เท่าไหร่ คิดเป็นเงินไทยกี่บาท ซึ่งในบางครั้งมันก็เทียบไม่ได้เพราะค่าครองชีพมันย่อมต่างกัน บางทีการรู้ราคาอาจจะทำให้อาหารมื้อนั้นไม่อร่อยเลยก็เป็นได้

ดังนั้นอะไรที่จำเป็นต้องจ่าย เช่น อาหาร น้ำดื่ม ก็จ่ายไปเถอค่ะ หากท่านถามราคาก็บอกไปว่า ไม่แพงหรอกประมาณกินในห้างบ้านเราเท่านี้ก็พอ

5️⃣.หากมีเรื่องอะไรตัดสินใจไม่ได้ ให้ถามความเห็นแม่

คนนำทางย่อมวางแผนในแต่ละวันมาดีแล้ว แต่บางครั้งแผนที่เตรียมมาก็ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ บางครั้งที่ต้องเลือกว่าจะไป 1 หรือ 2 ดี หรือ ไป 3 แล้วตัด 4 ออกดีไหม เป็นต้น

หากเราตัดสินใจไม่ได้ นั่นก็อยากไป นี่ก็อยากทำ แต่ ณ ตอนนั้น เราต้องเลือกเพียง 1 อย่าง ถ้าเราเลือกเองไม่ได้ แนะนำให้ถามแม่ เพราะแม่จะเป็นผู้ที่ตัดสินใจได้ดีที่สุด เพราะบางทีสิ่งที่เราเตรียมไว้ว่า อยากจะพาท่านไป ท่านอาจจะไม่ได้อยากไปก็ได้

ดังนั้นเล่าสถานการณ์ให้ท่านฟังคร่าวๆ แบบนี้แม่อยากไปไหม หรือแม่อยากดูอันนี้หรือเปล่า เดี๋ยวท่านจะตัดสินใจให้เราเอง รับรองง่ายขึ้นเยอะ 55

6️⃣. ที่เที่ยวไหน ไปไม่ไหวก็ตัดออกอย่าดันทุรัง

แผนเที่ยวที่เตรียมมาอย่างดีแล้ว ในบางครั้งก็ต้องตัดออกไป เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง
แต่ถ้าเราบอกพ่อ-แม่ว่า วันนี้ยังเหลืออีกที่นึงนะ พ่อแม่ก็อาจจะบอกว่าไปสิ ทั้งๆที่ความจริงท่านก็อาจจะเหนื่อยและเดินไม่ไหวแล้วก็เป็นได้

ดังนั้น ให้หมั่นสังเกตท่านด้วย ว่าการที่ปากบอกไหว ใจยังสู้ แล้วร่างกายหรือภาษากายของท่านไปด้วยกันหรือเปล่า บางทีท่านก็อยากให้เราไปให้ครบตามที่ต้องการ เพราะไหนๆก็มาเที่ยวถึงนี่แล้ว ท่านก็รู้ว่าเราทำการบ้านมาดี พ่อแม่ก็คงไม่อยากตัดที่เที่ยวที่ลูกๆเตรียมไปออกหรอค่ะ

หากไม่ไหวจริงๆ เราก็อาจจะพาท่านกลับไปพักที่โรงแรมก่อน และถ้าหากเรายังมีแรงค่อยออกมาเดินเที่ยวเล่นอีกรอบก็ได้

7️⃣.เผื่อเวลาไว้เยอะๆ คิดไว้เสมอว่า มีเวลาไปนั่งรอ ดีกว่าต้องวิ่งอย่างกระหืดกระหอบ

ไม่ว่าจะไปรอขึ้นรถไฟ หรือเดินทางไปสนามบิน ควรเลือกที่จะเผื่อเวลาไว้เยอะๆ การเดินไปถึงที่หมายอย่างช้าๆแบบไม่รีบร้อน นั้นเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและสบายใจที่สุด ความดันไม่ขึ้น หัวใจไม่เต้นแรง เป็นผลดีกับทั้งกับผู้นำทริปและผู้ร่วมทริปเอง

เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า การเดินทางที่เราควบคุมได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เผื่อเวลาออกเดินทาง เผื่อเวลาไว้สำหรับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น ดีกว่าต้องไปรีบร้อนและวิ่งกระหืดกระหอบ เมื่อเวลากระชั้นชิดค่ะ ความเครียดที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น เลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะค่ะ

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

นี่เป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆที่นำมาแบ่งปันกัน ใครมีเคล็ดลับที่ดีกว่านี้ สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้นะคะ แอดมินยินดีมากหากมีใครจะแบ่งปันอะไร เผื่อมีอะไรที่เรามองข้ามไป หรือ นึกไม่ถึงค่ะ

สนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ลูกๆเที่ยวกับพ่อแม่กันเยอะๆค่ะ

#JapanPlanB #เจแปนแผนสอง #เที่ยวด้วยตัวเอง

Comments