How to เที่ยวกับเพื่อนยังไงไม่ให้เสียเพื่อน
เพื่อนที่คบกันมานาน เพื่อนที่กินข้าวด้วยกันทุกวัน เพื่อนที่เจอกันที่ทำงานทุกวัน ใครจะคิดว่าเวลาไปเที่ยวด้วยกันแล้วเขาอาจจะไม่เหมือนคนที่เรารู้จักก็ได้จริงไหมคะ
หลายคนไปเที่ยวกับเพื่อนที่คิดว่าสนิท แต่ในระหว่างทริปก็มีเรื่องเล็กๆน้อยๆทำให้ผิดใจกัน บ้างก็งอนกัน บ้างก็บึ้งตึงกันไปเป็นวันๆ บางวันอาจจะแยกกันเที่ยว ถ้าร้ายแรงหน่อยจบทริปกลับมาถึงขั้นเลิกเป็นเพื่อนกันเลยก็มี
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่ามิตรภาพ หลายปีจะพังลงด้วยทริปเพียงทริปเดียว ฟังแล้วน่าเศร้านะคะ
เราชวนเพื่อนสนิทไปเที่ยวด้วยกัน หวังให้เกิดผลอย่างนึง แต่ทำไมระหว่างหรือจบทริปแล้ว ความสัมพันธ์มันดูไม่เป็นเหมือนที่คิดละ
มันเกิดอะไรขึ้นนะ?
วันนี้จะมาขอแบ่งปัน how to เที่ยวกับเพื่อนอย่างไรไม่ให้ให้เสียเพื่อน เป็นแนวทางเล็กๆน้อยๆสำหรับคนที่คิดจะชวนเพื่อนเที่ยว
1. จงชวนเพื่อนที่มีสไตล์การท่องเที่ยวคล้ายกับคุณไปด้วยกัน
เช่นถ้าเพื่อนสนิทคุณเป็นขา
ชิวเฉื่อยเรื่อยไปได้หมด แต่คุณเป็นขาลุย ต้องเก็บให้หมดครบทุกเม็ด แบบนี้ต่อให้สนิทขนาดไหนคุณก็อาจจะผิดใจกันได้
ชิวเฉื่อยเรื่อยไปได้หมด แต่คุณเป็นขาลุย ต้องเก็บให้หมดครบทุกเม็ด แบบนี้ต่อให้สนิทขนาดไหนคุณก็อาจจะผิดใจกันได้
เชื่อเถอะว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆมันเป็นเชื้อไฟได้อย่างดี เช่นนอนตื่นสาย ปลุกไม่ตื่น shopping นานไม่ตรงเวลา และอีกสัพเพเหระที่เราเห็นว่ามันเล็กน้อย จากสิ่งเล็กๆมันจะกลายเป็นใหญ่ได้
เพื่อนที่สนิทที่สุดอาจจะไม่ใช่เพื่อนเที่ยวที่ดีที่สุด แต่จงมองหาคนที่คุณคิดแล้วว่าเขามีสไตล์คล้ายๆกับคุณเช่นไปไหนไปกัน ชอบกินเหมือนกัน
ขาลุยเหมือนกัน เป็นคนชอบวางแผนเหมือนกัน
ขาลุยเหมือนกัน เป็นคนชอบวางแผนเหมือนกัน
2. จงช่วยกันตัดสินใจ
การที่เขาถามว่าเอายังไงดี แสดงว่าเขาต้องการความเห็น อย่าตอบนในสิ่งที่มันไม่ได้ช่วยอะไรแถมชวนให้หงุดหงิด เช่น
"แล้วแต่แกเลย"
"อะไรก็ได้"
"ได้หมด"
"แกว่าไงอ่ะ "
แล้วก็โยนกันไปมาไม่มีใครฟันธงเสียที
"แล้วแต่แกเลย"
"อะไรก็ได้"
"ได้หมด"
"แกว่าไงอ่ะ "
แล้วก็โยนกันไปมาไม่มีใครฟันธงเสียที
ให้ช่วยกันตัดสินใจ ยิ่งถ้าแสดงความต้องการไปเลยว่าคุณอยากกินอะไร อยากทำอะไร อยากไปไหน อยากพัก สิ่งเหล่านี้ช่วยได้มากและจะทำให้มีข้อสรุปได้อย่างรวดเร็ว
เกรงใจในเรื่องที่ควรเกรงใจแต่เรื่องไหนที่ต้องพูดก็จงพูดเพราะถ้าคุณไม่กล้าพูดเพราะความเกรงใจ สุดท้ายถ้าเพื่อนตัดสินใจให้คุณจะหงุดหงิดในสิ่งที่เขาเลือกอยู่ดี
พูดออกมาเลยค่ะ ถ้ามันไม่ตรงกันก็ค่อยมาโหวตกันว่าจะเอายังไง
3. จงช่วยเหลือตัวและรับผิดชอบตัวเองให้มาก
คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งแต่ยาสีฟันไปจนถึงพาวเวอร์แบงค์ ของอะไรที่คิดว่าจำเป็นต้องใช้ก็จงเตรียมไปซะ
นัดออกกี่โมง นัดเจอกันกี่โมงก็ต้องให้ตรงเวลา อย่าให้เพื่อนบอกหรือย้ำหลายรอบ คนบอกก็คงจะอึดอัดส่วนคนที่ถูกบอกก็คงจะหงุดหงิดอย่าให้เกิดบรรยากาศมาคุโดยไม่จำเป็นเลย
อย่าคาดหวังว่าเขาจะต้องมาทำนั่น ทำนี่ให้เรา เช่นถือของยกของ ฝากกระเป๋า
ถ้าเขาไม่ช่วยจะไปหาว่าเขาไม่มีน้ำใจก็ไม่ได้ เพราะการไปเที่ยวทุกคนล้วนต้องดูแลตัวเองทั้งนั้น ถ้าทุกคนดูแลตัวเองได้ดีแล้วมันจะเกิดบรรยากาศแห่งการดูแลกันและกันตามมา
ถ้าเขาไม่ช่วยจะไปหาว่าเขาไม่มีน้ำใจก็ไม่ได้ เพราะการไปเที่ยวทุกคนล้วนต้องดูแลตัวเองทั้งนั้น ถ้าทุกคนดูแลตัวเองได้ดีแล้วมันจะเกิดบรรยากาศแห่งการดูแลกันและกันตามมา
4. จงช่วยเหลือกันและกันระหว่างทาง
ก่อนเที่ยว คุณก็ควรคุยกันแล้วว่าอยากไปไหน อยากทำอะไรอย่าปล่อยให้คนๆเดียววางแผน ให้ช่วยกันทำแผนท่องเที่ยว ช่วยกันหาที่พัก
ระหว่างเที่ยว ให้ช่วยกันดูทาง ช่วยกันดูป้ายสถานี ช่วยกันดูสายรถไฟ อย่าคาดหวังให้เพื่อนคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่นี้คนเดียว ไปด้วยกัน เราต้องช่วยๆกัน หลายคนหลายตาโอกาสพลาดก็มีน้อย และหากเกิดข้อผิดพลาดก็จงอย่าโทษเพื่อน ให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ช่วยกันแก้ปัญหา
5. อย่าถือสาและรู้จักให้อภัย
ไม่มีใครไม่เคยทะเลาะกันระหว่างท่องเที่ยว อย่างที่บอกว่าสิ่งเล็กๆอาจกลายเป็นชนวนขึ้นมาได้
เพราะฉะนั้นอะไรฟังแล้วไม่พอใจ ก็อย่าเก็บมาใส่ใจ อย่าไปถือสา อย่าคิดมาก ผ่านได้ผ่าน ถ้าทนไม่ไหวก็เปิดอกคุยกัน เคลียร์กัน ตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนหมดวัน โกรธได้หงุดหงิดได้ จะด่ากันก็ได้แต่ขอให้หายเร็วๆเคลียร์แล้วต้องจบ
เพื่อนกันคุยกันได้อยู่แล้ว บางครั้งอาจมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องแต่เราก็ต้องพยายามเย็นให้ได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทเรียนให้เราได้รู้จักเพื่อนของเราให้ดีขึ้น
สุดท้ายถ้ามันแย่มากจริงๆคุณก็แค่เลิกเที่ยวกับเขา แต่ไม่จำเป็นต้องเลิกเป็นเพื่อนกันก็ได้ จริงไหมคะ
เพราะการเดินทาง "เพื่อนร่วมทาง" นั้นสำคัญ ใครที่เจอแล้ว คุณโชคดี และจงรักษามิตรภาพนั้นไว้
ใครที่กำลังหาขอให้เจอเพื่อนร่วมทางที่ดีเพื่อให้ทุกๆทริปต่อจากนี้ เป็นที่การเดินทางที่น่าจดจำนะคะ
Comments
Post a Comment